ประตูปีศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในห้าประตูของพระมหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งมีชื่อว่า
(1) ประตูพระพิพากษามนุษย์ (Porta Judicii) ใช้สำหรับงานศพ
(2) ประตูราเวนนาตี้ (Porta Ravennati)
(3) ประตูเงิน (Porta Argentea) พระสันตะปาปาฮอนนอรีอุสที่ 1 ได้สั่งให้กรุบานประตูนี้ด้วยแผ่นเงินก่อนปี 656
ชาวซาราเซนส์ได้ขโมยแผ่นเงินไปในปี 845 พระสันตะปาปายูยีนที่ 4 ได้จ้างช่างศิลป์ชาวโฟลเรนส์กรุบานประตูใหม่ด้วยแผ่นทองแดงแสดงรูปมรณะสักขีกรรม ของนักบุญเปโตรและเปาโลในปี 1447 ทั้งสามเป็นประตูหลัก และจะเปิดใช้ในโอกาสพิเศษเท่านั้น
(4) ประตูโรมานา (Porta Romana) เมื่อก่อนเป็นประตูเข้าออกสำหรับสตรี
(5) ประตูมัคคุเทศก์ (Porta Guidonea) เป็นจุดที่คนนำเที่ยวนัดพบนักท่องเที่ยวและผู้มาแสวงบุญ ประตูนี้ใช้สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะ
ประตูปีศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกรักษาอยู่ในสภาพดีพอสมควร จนกระทั่งสมัยของพระสันตะปาปาปอลที่ 6 พระองค์ได้สั่งให้ตบแต่งประตูเหล่านี้อย่างเป็นทางการ
และเปิดใช้ในปีศักดิ์สิทธิ์ 1975 พระสันตะปาปาปอลที่ 6 เมื่อพระองค์เป็นพระคาร์ดินัลมอนตินิ ได้เป็นผู้ช่วยของพระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ในพิธีเปิดปีศักดิ์สิทธิ์ 1950
บนทางเดินรอดส่วนโค้งไปยังประตูศักดิ์สิทธิ์ มีประตูสูงมากสองบาน แต่ละบานมีแผ่นกรุทึบ 8 แผ่น ระหว่างแผ่นกรุ มีแถบกั้นอยู่ เป็นตราประจำตำแหน่ง
ของพระสันตะปาปาองค์ก่อน ผู้ซึ่งได้เปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ตราของพระสันตะปาปาปิโอที่ 12 และปอลที่ 6 อยู่ใต้แผ่นกรุบานประตูที่ 9
แผ่นกรุ 16 แผ่น ต้องดูจากซ้ายไปขวาและจากบนลงล่าง เป็นการลงภาพเรื่องราวต่างๆของพระเยซูเจ้า ที่เน้นถึงการให้อภัยและการคืนดีกัน
- ในแผ่นกรุบานประตู 4 แผ่นแรก มีรูปภาพเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นตามลำดับ เราถวายเกียรติแด่พระนางมารีอา ในฐานะพระชนนีของพระมหาไถ่
พระนางเป็นทางเข้าสู่การเป็นมนุษย์ของพระองค์ และทางเข้าสวรรค์ของเรา
- แผ่นกรุบานประตูที่ 1 และ 2 เป็นรูปภาพของอาดำและเอวาถูกขับออกจากสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน บนต้นไม้มีงูที่ได้ล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาป สัตว์ต่างๆกำลังแตกตื่น
และหลบหนีภัยอันตราย เทวดาถือดาบไฟในมืออย่างเครียดแค้น สั่งให้อาดำ ผู้ซึ่ง ในความอับอายและความหวาดกลัว ห่อหุ้มตัวด้วยใบไม้ และเอวา
ผู้ซึ่งร้องไห้สะอึกสะอื้น เดินออกจากสวนสวรรค์โดยทางประตู
- แผ่นกรุบานประตูที่ 3 และ 4 แสดงความสงบสุขในการแจ้งข่าวแด่พระนางมารีอา พระนางนั่งสวดภาวนา ใกล้โต๊ะสำหรับรำพึง มีหนังสือพระคัมภีร์กางอยู่
ม่านถูกเปิดและผูกไว้ทั้งสองข้าง เป็นการบอกถึงบรรยากาศแห่งการต้อนรับด้วยความยินดี ข้างๆพระนาง มีกระถางปลูกต้นพลับพลึงกับดอกไม้สามดอก
มีม่านปิดอยู่เชื่อมแผ่นกรุบานประตูทั้งสองหมายถึง แผนการณ์ของพระเป็นเจ้าที่ยังไม่ได้เปิดเผย อัครเทวดาคาเบรียลได้มาหาพระนางมารีอา
ด้วยสันติสุขเปี่ยมด้วยพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า แจ้งให้พระนางทราบว่าองค์พระเจ้าได้ทรงเลือกพระนางเป็นพระชนนีของพระมหาไถ่
เทวดาได้ถวายดอกไม้แด่พระนางเป็นเครื่องหมายว่า พระเป็นเจ้าทรงพอพระทัยในความมีน้ำใจเอื้ออารีของพระนาง
- แผ่นกรุบานประตูทั้งสี่ มีคำภาษาลาตินจารึกในแผ่นกรุที่ 2 และ 3 เอามาจากบทเพลิงสรรเสริญพระนางพรหมจารีมารีอา ประพันธ์โดย วีแนนตีอุส ฟอตูเนตัส
พระสังฆราชแห่งเมืองปอยติเอ ประเทศฝรั่งเศสประมาณปี 600 ทางซ้ายมือเขียนว่า "สิ่งที่เอวาผู้โศกเศร้าได้สูญเสียไป" และทางขวามือเขียนว่า
"พระนางได้สิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมา โดยอาศัยพระบุตรของพระนาง" สองบรรทัดสุดท้ายอ่านว่า "พระนางได้เปิดประตูสวรรค์ให้คนบาปขึ้นไปถึงดวงดาวในเวหา"
ในสมัยที่เพิ่งสร้างประตูนี้ บทเพลงสรรเสริญแม่พระเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และใครที่ได้อ่านก็จะจำได้ทันที
- แผ่นกรุบานประตูที่ 5 ถึง 15 แสดงให้เห็นว่า พระเยซูเจ้าเป็นองค์พระเจ้า พร้อมเสมอที่จะให้อภัยคนที่สำนึกผิด
- แผ่นกรุที่ 5 พระเยซูเจ้าทรงรับศีลล้างบาป. เทวดาองค์หนึ่งถือพระภูษาของพระเยซูเจ้า ขณะที่พระองค์กำลังยืนในแม่น้ำจอร์แดน พระคริสตเจ้าได้ไขว้พระหัตถ์ บนพระอุระของพระองค์ หมายถึงการยินยอมให้นักบุญยอห์น บัปติสท์ เทน้ำลงบนพระเศียรของพระองค์ ศีลล้างบาปเป็นการประกาศอย่างตั้งใจจริงที่จะเลิกทำบาป
และคำมั่นสัญญาที่จะดำรงชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า พระเยซูเจ้าไม่จำเป็นต้องรับศีลล้างบาป แต่พระองค์ทรงรับศีลนี้เพื่อย้ำถึงความสำคัญที่พระองค์ เสด็จมาในโลกเพื่อกอบกู้มนุษยชาติให้พ้นจากบาป และเป็นแบบอย่างแก่เรา ณ จุดนี้เอง นักบุญยอห์นได้ประกาศว่า พระคริสตเจ้าเป็น
"ลูกแกะพระเจ้า ผู้ยกบาปของโลก!" คำจารึกภาษาลาตินสะท้อนให้เห็นความพิศวงงงงวยของนักบุญยอห์นเมื่อท่านพูดกับพระองค์ว่า "พระองค์เสด็จมาหาข้าพเจ้า?"
- แผ่นกรุบานประตูที่ 6 พระเยซูเจ้าเป็นนายชุมพาบาลที่ดี. เป็นรูปภาพที่วาดได้อย่างสวยงามเหมาะเจาะบนเชิงเขา สูงขึ้นไปเป็นที่ซึ่งฝูงแกะกำลังเล็มหญ้าอยู่
พระเยซูเจ้าจับอย่างเหนียวแน่นกิ่งพุ่มไม้ด้วยพระหัตถ์ข้างหนึ่ง ในขณะที่พระองค์ยื่นพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งลงไปเบื้องล่าง เพื่อฉุดลูกแกะที่ได้หล่นลงไป ขึ้นมา พระหัตถ์ทั้งสองข้างที่ยื่นออกไป มีกล้ามเนื้อเกรงตึง หมายถึงการถวายชีวิตเพื่อลูกแกะของพระองค์ในอนาคต คำจารึกภาษาลาติอ่านว่า "เพื่อกอบกู้สิ่งที่ได้พินาศไป"
- แผ่นกรุบานประตูที่ 7 ลูกล้างผลาญ. นิทานเปรียบเทียบที่คริสตชนรู้จักเป็นอย่างดีเกี่ยวกับการให้อภัยและการยอมรับสู่การเป็นพ่อลูกกันใหม่
บิดาผู้สูงอายุได้มองดูท้องฟ้าด้วยความกตัญญูรู้คุณต่อพระเป็นเจ้า ที่พระองค์ได้โปรดให้ลูกชายกลับคืนมา หลังจากที่เขาได้เร่ร่อนไปในดินแดนไกลๆ ใช้ชีวิตของตนอย่างเสเพล และผลาญเงินมรดกจนไม่มีเหลือแม้แต่สตางค์แดงเดียว ลูกชายได้คุกเข่าลงข้างหน้าบิดา ด้วยความเศร้าโศกเสียใจที่ได้ทำผิดอย่างมหันต์ ข้างๆมีต้นปาล์มสองต้น และม้าตัวหนึ่งกำลังจ้องมอง ใกล้ๆมีบ่อน้ำและถังตักน้ำ คำจารึกภาษาลาตินอ่านว่า "คุณพ่อครับ ผมได้ทำผิดต่อสวรรค์และพ่อ"
- แผ่นกรุบานประตูที่ 8 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนที่เป็นอัมพาต. คนป่วยนี้ได้ถูกหย่อนจากหลังคาบ้าน มุงด้วยกระเบื้อง ลงมาตรงที่พระองค์ยืนอยู่ เมื่อพระองค์บอกเขาให้เก็บแคร่ และเดินบางคนคัดค้านพระองค์ เพราะพระองค์ได้พูดว่า: "บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว!" พระเยซูเจ้าทรงตอบคนที่ไม่เห็นด้วย
กับพระองค์ว่า "เพื่อท่านจะได้ทราบว่า บุตรแห่งมนุษย์มีพระฤทธานุภาพในการอภัยบาป เราพูดกับท่านว่า "เก็บเสื่อของท่าน และลุกขึ้นเดิน"
- แผ่นกรุบานประตูที่ 9 พระเยซูเจ้าทรงให้อภัยหญิงคนบาป. พระองค์เสวยพระอาหารค่ำที่บ้านของชาวฟารีเซวคนหนึ่ง ผู้ซึ่งไม่ได้จัดเตรียมน้ำไว้ให้พระองค์
ล้างพระบาท หญิงคนบาปได้เจิมพระบาทของพระองค์ด้วยน้ำหอมราคาแพง เธอได้ร้องไห้และน้ำตาของเธอไหลลงบนพระบาทของพระองค์ และเธอได้เช็ดพระบาท
ของพระองค์ให้แห้งด้วยผมของเธอ คำจารึกภาษาลาตินอ่านว่า "บาปของหญิงคนนี้ได้รับการอภัยหมดแล้ว!"
- แผ่นกรุบานประตูที่ 10 เราจะต้องให้อภัยคนกี่ครั้ง? นักบุญเปโตร อัครสาวก ได้ถามพระเยซูเจ้าว่าเขาจะต้องให้อภัยคนที่ทำผิดต่อเขากี่ครั้ง โดยแนะนำว่า
พอไหม 7 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในความคิดของเขา พระองค์ทรงตอบด้วยตัวเลขที่ไม่รู้จักจบ: 7 ครั้ง 70 หน (นั่น คือ 7 คูณ70 ตามหลักคณิตศาสตร์)
- แผ่นกรุบานประตูที่ 11 พระเยซูกับนักบุญเปโตร. คราวนี้เป็นทีของเปโตรที่ต้องขอโทษพระองค์ ในชั่วโมงต้นๆของวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ตอนเช้า พระเยซูเจ้าเป็นนักโทษ ถูกมัดที่พระหัตถ์กำลังเดินอยู่ในบริเวณคฤหัสถ์ของปิลาโต ทหารกำลังพาพระองค์ไปพบเขา พระองค์ได้ตรัสไว้ล่วงหน้าว่า ก่อนไก่ขันสองหน
เปโตรจะปฏิเสธพระองค์ 3 ครั้ง ในรูปภาพ ทางรอดส่วนโค้งสามอันหมายถึงการปฏิเสธ 3 ครั้งของอัครสาวกเปโตร และไก่ตัวหนึ่งอยู่เหนือส่วนโค้งกำลังขันส่งเสียงดัง
หลังทางรอดส่วนโค้งมีสาวใช้คนหนึ่ง เปโตรได้ยืนยันกับเธอว่า เขาไม่รู้จักพระเยซูเจ้า เมื่อเขาหันหน้าไปสบพระเนตรของพระองค์เข้า เขาเริ่มตระหนักว่า เขาได้ทรยศพระองค์ และไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น เปโตรจึงร้องไห้อย่างขมขื่น (เหมือนอาดำและเอวาร้องไห้เมื่อถูกขับออกจากสวนสวรรค์)
คำจารึกภาษาลาติอ่านว่า "และหันหลัง พระองค์ได้ทรงแลเห็นเปโตร"
- แผ่นกรุบานประตูที่ 12 พระเยซูเจ้าถูกตรึงและแขวนอยู่บนไม้กางเขน. ในขณะเข้าตรีทูต พระองค์ได้หันพระพักตร์มายังนักบุญดิสมัส โจรที่เป็นคนดี
ผู้ซึ่งถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระองค์ และได้ทรงสัญญากับเขาว่า "วันนี้ท่านจะได้อยู่กับเราในสวรรค์"
- แผ่นกรุบานประตูที่ 13 พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่อัครสาวกโทมัส. พระองค์ได้กลับเป็นขึ้นมาจากความตายและประจักษ์ท่ามกลางอัครสาวกทั้งหลาย ท้าทาย
นักบุญโทมัส ผู้สงสัย พิสูจน์รอยแผลในพระหัตถ์ทั้งสองและสีข้างของพระองค์ เขาได้พิจารณารอยแผลของพระองค์ที่ถูกแทงด้วยปลายหอก ในขณะที่พระองค์ตรัสว่า: "คนที่ไม่ได้เห็นแต่เชื่อเป็นผู้มีบุญ" ฉากนี้เกิดขึ้น ณ ประตูทางเข้าห้องชั้นบน ซึ่งอัครสาวกได้ล๊อกกูญแจไว้ เนื่องจากความหวาดกลัวและการป้องกันตัว จากภัยที่กำลังคุกคามอยู่
- แผ่นกรุบานประตูที่ 14 การประทานพระจิตเจ้าและการอภัยบาป คืนวันปาสกา พระเยซูเจ้าได้ผ่านประตูที่ลั่นกลอนไว้ของห้องชั้นบน เข้าไปหาอัครสาวก
คำแรกที่พระองค์ทรงตรัสคือ: "ขอให้สันติสุขสถิตกับท่าน" เป็นการยืนยันถึงการให้อภัยของพระองค์เมื่อเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระองค์ ในเวลาที่พระองค์ต้องการเขาทั้งหลายอย่างที่สุด แล้วพระองค์ได้ประทานพระฤทธานุภาพให้อัครสาวกมีอำนาจยกบาปในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
คำจารึกภาษาลาตินอ่านว่า: "จงรับพระจิตเจ้า บาปอะไรก็ตาม ที่ท่านให้อภัย ก็จะได้รับการอภัย . . . "
- แผ่นกรุบานประตูที่ 15: นักบุญเปาโลได้กลับใจและรับการอภัยบาป. เปาโล ผู้ซึ่งเกลียดชังคริสตชน กำลังเดินทางไปยังเมืองดามัสกัสในประเทศซีเรีย
ภาพประจักษ์มาของพระเยซูเจ้าได้ทำให้ท่านตาบอดหล่นจากอานม้า เปาโลพยายามที่จะลุกขึ้นยืนในขณะที่พระองค์ตรัสว่า: "เรา คือ พระเยซู ที่ท่านเบียดเบียน"
พระองค์ได้ทรงทำให้เปาโลกลับใจเป็นชาวคริสต์ แล้วเขาได้กลายเป็นอัครสาวกและนักแพร่ธรรมผู้ยิ่งใหญ่ของพระศาสนจักร เขาเป็นแบบอย่างของคนที่ได้กลับใจ
และรับการอภัยบาป ผู้ซึ่งสิ่งที่ดีงามใหม่ๆกำลังรอคอยอยู่ข้างหน้า
- แผ่นกรุบานประตูที่ 16: พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 เปิดประตูปีศักดิ์สิทธิ์ในปี 1950. พระองค์ยืนอยู่หน้าประตู ซึ่งพระองค์กำลังจะเปิด สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์ 1950
พระองค์ได้ประกาศเป็นข้อความเชื่อ การยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางพรหมจารีมารีอา และนักบุญอันตนแห่งปาดัวเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร นักบุญองค์นี้สิ้นใจในปี 1231 ขณะขับร้องเพลง "O Gloriosa" ขณะพระสันตะปาปาเคาะประตูด้วยฆ้อนชนิดพิเศษ
พระคาร์ดินัลสององค์คุกเข่าอยู่ข้างๆพระองค์ ผู้ที่ถือเทียนอยู่ในมือ คือ พระคาร์ดินัลมอนตินิ ต่อมาท่านได้เป็นพระสังฆราชประจำเมืองมิลาน และดำรงตำแหน่ง พระสันตะปาปาปอลที่ 6 สืบต่อจากพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ทหารรักษาพระองค์ชาวสวิสยืนอยู่ข้างประตู คำจารึกภาษาลาติน ซึ่งคัดมาจากหนังสือเล่มสุดท้ายของ พระคัมภีร์ เกี่ยวกับการทำนายเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นก่อนโลกสิ้นพิภพ อ่านว่า "เรายืนที่ประตู และเคาะ" ภายในพระมหาวิหาร มีรูปภาพลวดลายโมเสอิค อันสวยงาม ของนักบุญเปโตรถือกุญแจเมืองสวรรค์ และคำจารึกเป็นเกียรติแด่พระสันตะปาปาเคลมเม้นท์ที่ 10 และปีศักดิ์สิทธิ์ 1675
ภาพเหตุการณ์เหล่านี้เป็นการรำพึงที่ให้ผลอย่างบริบูรณ์แก่เราในการขออภัยบาป และเตือนใจเราระลึกถึงพระเมตตาของพระเป็นเจ้า
ผู้ซึ่งพร้อมเสมอที่จะให้อภัยคนบาป โดยตัวอย่างเรื่องราวต่างๆที่ได้มีการบันทึกไว้ในหนังสือพระคัมภีร์
หมายเหตุ: Fr. Barry Bossa เป็นนักประพันธ์ และผู้ส่งบทความไปลงหนังสือพิมพ์คาทอลิกหลายฉบับ ท่านเขียนบทความจากวัดแม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล ที่ยองเกอร์ส รัฐนิวยอร์ค ท่านเรียนจบจากสมณะมหาวิทยาลัยแห่งนักบุญโทมัสอะไควนัสในกรุงโรม