Data Computer's House. Korat.
  2123-2125 Suebsiri Rd. Nai-muang, Nakorn-Rachasima.30000 Thailand.  

  บริษัท ดาต้าคอมม์ บีบีเอส. จำกัด  2123-2125 ถนนสืบศิริ อ.เมือง นครราชสีมา 30000 โทรศัพท์/โทรสาร. 044-353392, 353578  

   ศตวรรษแห่งมรณะสักขี
    โดย " Patricia Treece "
    จากหนังสือพิมพ์ The Tidings ฉบับวันที่ 21 กรกฏาคม 2000


แปลและเรียบเรียงโดย  
สิริโรจนา   


    ศตวรรษที่ 20 ได้ประทานมรณะสักขีแก่พระศาสนจักรมากกว่ายุคใดๆ คนที่เชื่อถือ และติดตามพระคริสตเจ้าได้ถูกเบียดเบียน ภายใต้สัทธิคอมมิวนิสต์ ระบอบอนาธิปไตย ลัทธินาซี ลัทธิชาตินิยมในอิตาลี ขบวนการก่อการร้ายชาวอิสลาม และขบวนการชาตินิยม

    • เริ่มศตวรรษใหม่ ในปี 1894 ภายใต้แผนการของสุลต่าน อาบิด อัล ฮามิดที่ 2 แขกตุรกีได้ฆ่าอย่างถอนรากถอนโคนชาวอาเมเนี่ยนที่เชื่อถือพระคริสตเจ้า
    • ในปี 1915 การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาเมนี่ยนเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวเขย่าขวัญอย่างที่สุด
    • ประมาณ 2 ปีกว่าๆ ต่อมา สงครามทำลายศาสนาคริสต์ได้เริ่มขึ้นในประเทศรัสเซีย เมื่อพวกคอมมิวนิสต์ ผู้ไม่เชื่อถือพระเป็นเจ้า ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ
    • ในปี 1920 ส่วนหนึ่งของสงครามนั้นเกี่ยวข้องกับความอดหยากในยูเครน ซึ่งเป็นการสร้างสถานะการณ์ทางการเมืองโดยเจตนา ขณะชาวยูเครนกำลังหมกมุ่นกับการต่อสู้เพื่อชีวิต ชาวคอมมิวนิสต์รัสเซียผู้ยึดอำนาจการปกครองได้โจมตีพระศาสนจักร และในเวลาเดียวกัน ด้วยความเอารัดเอาเปรียบ ได้ร้องขอความเห็นอกเห็นใจจากสำนักวาติกันเพื่อลดความหิวโหยในยูเครน วาติกันก็ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ประสบความทุกข์ร้อน

    ในศตวรรษเดียวกันนี้ บรรยากาศแห่งการต่อต้านพระศาสนจักรอย่างน่าหวาดกลัวได้แพร่หลายไปยังสถานที่หลายแห่งและเป้าหมายต่อไป คือ ประเทศเมกซิโก ทั้งสื่อมวลชนและรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งมีแนวโน้มในการต่อต้านพระศาสนาคาทอลิก ไม่สนใจต่อเหตุการณ์เลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้น รัฐบาลเมกซิโก ได้ทารุณโหดร้ายต่อพระศาสนจักรโดยการออกกฎหมาย ซึ่งเป็นผลให้ทางการทารุณและฆาตกรรมพระสงฆ์และฆราวาสหลายร้อยคน
       
    • 1930 และ 1940 ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้เบียดเบียน ยิ่งทียิ่งรุนแรงขึ้น คนที่เชื่อถือพระเป็นเจ้าในทวีปยุโรป
    • ในปลายปี 1940 คุณพ่อโวโลดีเมีย สเทอนิอุค ผู้ซึ่งได้ถูกกักกันอยู่ในค่ายกรรมกรกูแล๊กเป็นเวลา 5 ปี ได้ประมาณการว่า ค่ายกักกันแห่งหนึ่งขังพระสงฆ์ 2,000 องค์ รวมทั้งนักบวชชายหญิง และฆราวาสผู้มีชื่อเสียงของพระศาสนาคาทอลิกจารีตไบแซนไทน์แห่งยูเครน หลายคนได้เสียชีวิตจากการทารุณกรรม หรือการประหารชีวิต
    • ในปี 1930 ชาวสเปนหลายคนได้เป็นมรณะสักขี ต้นปี 1936 นักล้มกฎหมายและการปกครองและพวกคอมมิวนิสต์ได้สังหารนักบวชเหล่านี้:
      องค์ นักบวชคณะ
      259 แคลร์
      226 ฟรังซิสกัน
      204 เปียรีส
      176 ภารดาของพระนางมารีอา
      165 ภารดาของพระคริสตเจ้า
      155 ออกัสติน
      132 โดมินิกัน
      114 เยซูอิท
      26 พระมหาทรมาน
      71 ภารดาแห่งโรงพยาบาลนักบุญจอห์นออฟ ก๊อด
      12 สโกโลปี
      17 ข้อความเชื่อพระคริสตเจ้าแห่งมิสลาตา
      30 ธิดาแห่งพระเมตตา
      26 คาร์เมลแห่งพระเมตตา
      26 อะโดเรทไรเซส
      20 คาปูชิน
      7 แม่พระเสด็จเยี่ยมนักบุญเอลิซาเบธ
      3 ชีมืดคาร์เมล
      2000 พระสงฆ์ในสังมณฑล และพระสังฆราชหลายองค์

    ฆราวาสคาทอลิกถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก เพราะเขาทั้งหลายแขวนรูปพระ ให้บ้านเป็นที่พักพิงของนักบวชหญิงผู้หลบหนีลัทธิอุบาทว์ หรือทำงานให้กับองค์การของพระศาสนจักรอย่างแข็งขัน

    ถึงแม้ฮิตเล่อร์ได้ช่วยประเทศสเปนต่อสู้กับกำลังทหารของลัทธิคอมมิวนิสต์ เขาเกลียดพระศาสนจักรมากเท่ากับระบอบคอมมิวนิสต์ ตอนแรก ๆ เขาได้ยอมรับอย่างเปิดเผยบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเขาเรียกว่า "ศาสนาคริสต์ในทางบวก" โดยส่วนตัว เขาดูถูกเหยียดหยาม และ เรียก คริสตชนว่า "พระเจ้ายิวที่อ่อนแอ" และ "หลักธรรมแห่งความเห็นอกเห็นใจ ที่อ่อนปวกเปียก" หลังจากที่ได้ลงนามในสนธิสัญญาคอนคอเดิ้นกับพระศาสนจักรในปี 1933 ฮิตเล่อร์ได้บอกคนใกล้ชิดอย่างเยาะเย้ยว่า: "สนธิสัญญาฉบับนั้นไม่อาจป้องกันไม่ให้ข้าพเจ้ากำจัดศาสนาคริสต์ในประเทศเยอรมันอย่างถอนรากถอนโคน"

    ฮิตเล่อร์ได้เฝ้าคอยจนกระทั่งเขาได้ยึดอำนาจในยุโรปทางการเมือง แล้วเขาก็ทำลายพระศาสนจักร ตามความพึงพอใจของตน โดยการทารุณกรรม ฆาตกรรม และการคุมขังคริสตชนชาวเยอรมันที่ "ด้อยความสำคัญ" เขาระมัดระวังที่จะไม่ทำอะไรอย่างเปิดเผยต่อผู้ใดที่เป็นบุคคลสำคัญและขัดแย้ง กับเขา เช่น พระสังฆราช เคลมเมนส์ ออกัส วอน กาเลน ฮิตเล่อร์ได้สัญญากับคนใกล้ชิดว่า: "ในที่สุดข้าพเจ้าจะล้างแค้นจนถึงเลือดหยดสุดท้าย"

    ฮิตเล่อร์ได้ล่มสลายหลังจากที่ได้ทำมิดีมิร้ายต่อพระศาสนจักรในประเทศต่างๆ เช่น โปแลนด์ ซึ่งได้สูญเสียนักบวชหลายพันคนโดยการประหารชีวิตและการส่งเข้าค่ายกักกัน คนที่เชื่อถือพระเป็นเจ้าในประเทศโปแลนด์ และประเทศในยุโรปภาคตะวันออก ผู้ซึ่งได้รอดตายอย่างหวุดหวิดจากลัทธินาซี ได้ถูกทำให้เป็นมรณะสักขีโดยพวกคอมมิวนิสต์ "ปลดแอก" ผู้ซึ่งได้รีบฉวยโอกาสทำสงครามกับศาสนาคริสต์ทันที

    • ปี 1950 และ 1960 เป็นยุคสงครามเย็น ความรุนแรงต่างๆก็มิได้ลดลง ตัวอย่าง พระสังฆราช ยูยีน บอสสิคอฟ ชาวบูแกรี่ ถูกทารุณกรรม แล้วถูกประหารชีวิตในปี 1952 ในข้อหาล้วงความลับกรรมวิธีการผลิต อีกคนที่รู้จักกันอย่างดี คือ พระคาร์ดินัล โยเซฟ มินด์เซนสกี้ ชาวฮังการี่ หลังจากถูกทรมานเป็นเวลา 40 วัน ท่านได้สารภาพว่า ท่านได้ "ต่อต้านการปฏิบัติงานของรัฐ" พระสงฆ์ชาวอังการี่ 600 องค์ได้เข้าคุกพร้อมกับท่าน
    • 30 ปีต่อมา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในประเทศที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ยึดอำนาจ ค่ายกักกันกูแล๊กมีนักโทษพระสงฆ์เพิ่มขึ้นจากประเทศที่ถูกกดขี่ข่มเหง เช่น ลิธูเนีย ประเทศอื่นๆ ถูกจัดการอย่างไม่เปิดเผย เช่น ในปี 1981 คุณพ่อ ปรีไมซัล โกฟัล พระสงฆ์นักบวชใต้ดินชาวสโลวัก ถูกประกาศว่า ท่านได้ฆ่าตัวตาย ร่างกายของท่านเต็มไปด้วยบาดแผล และรอยฟกช้ำ แสดงร่องรอยของการทารุณ กรรม เมื่อคนพบศพของท่านในบ้านพัก
    • ในปี 1949 พวกคอมมิวนิสต์ได้ยึดอำนาจในประเทศจีน จากวันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ คริสตชนหลายคน รวมทั้งพระสังฆราชชาวจีน ผู้ซึ่งไม่ยอมทิ้งความเชื่อ ถูกฆาตกรรม เนรเทศ ยึดทรัพย์สินทั้งหมด และขังคุกเป็นเวลาหลายทศวรรษ

      ในทวีปอเมริกากลาง ระบอบที่ไม่กี่ครอบครัวที่ร่ำรวยคุมเศรษฐกิจของประชาชนทั้งประเทศได้กล่าวหาพระศาสนจักร ที่ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมทางสังคมว่า "เป็นคอมมิวนิสต์" คริสตชนมากมายที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ถูกทรมาน ฆ่าตาย หรือหายไปเฉยๆ

      ในทวีปอัฟริกา ผู้ก่อการร้ายชาวอิสลาม ขบวนการนิยมเผ่าพันธุ์ และ ขบวนการชาตินิยม ได้ผลิตคริสตชนมรณะสักขีสำหรับศตวรรษที่ 20 ขณะเริ่มปี 2000 ประเทศซูดานได้ทนทุกข์สงครามล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งผู้ก่อการร้ายชาวอิสลามได้กระทำต่อชาวนูบา ผู้นับถือพระคริสตเจ้า

      เทวฑูตถือสารมาแจ้งแก่พระนางมารีย์ / พระนางมารีย์ร่วมมือกับพระเป็นเจ้า / คำอธิบาย บทวันทามารีอา


bCentral Counter  

Send mail to [email protected] with question or comments about this web.
Copyright @ 1995-2000 Data Computer's House. 2123-2125 Suebsiri Rd. Muang,
Nakorn-Rachasima.30000 Thailand.    Last