นักบุญยอเซฟ เดอะ เวสเตอร์
ฉลองวันที่ 15 เมษายน
คริสตชนรู้จักท่านในนาม คุณพ่อเดเมียน
องค์อุปถัมภ์คนที่เป็นโรคเรื้อน คนที่ถูกทอดทิ้ง คนที่สังคมรังเกียจ
คนที่มีความศรัทธาต่อพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
และต่อดวงพระทัยนิรมลทินของพระนางมารีอา
แปลและเรียบเรียงโดย
สิริโรจนา
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 1840 ยอเซฟเกิดที่เมืองเตรมมีลู ประเทศเบลเยี่ยม พ่อของท่านเป็นชาวนา และได้ให้ท่านเรียน วิชาพาณิชย์ที่มหาวิทยาลัยเบรียน-ลี-คอมที เนื่องจากผลการแพร่ธรรมของคณะพระมหาไถ่ในปี 1858 ท่านได้ตัดสินใจสมัครเป็นพระสงฆ์นักบวช คณะพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าและดวงพระทัยของพระนางมารีอาที่เมืองลูเวนในปี 1890 และเลือกศาสนนาม "เดเมียน" ขณะยังเป็นเณรอยู่ที่อารามปารีเซียน ท่านได้อาสาสมัครเป็นนักแพร่ธรรมในหมู่เกาะทะเลทางตอนใต้ แต่ไม่ได้รับอนุมัติ เพราะท่านยังไม่ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เมื่อพระสงฆ์ที่ได้รับมอบหมาย ให้ไปทำงานที่นั่นได้ล้มป่วยอย่างกระทันหัน เดเมียนจึงได้รับอนุญาตให้ไปทำงานแทน ในปี 1864 พระสงฆ์สิบองค์ได้เดินทางไปหมู่เกาะฮาวาย โดยทางเรือ เดเมียนเป็นนักบวชคนเดียวที่มีอายุมากที่สุด
สองเดือนต่อมาเดเมียนได้รับศีลอนุกรมที่ฮอนโนลูลู และได้รับมอบหมายให้ดูแลวัดแห่งหนึ่งห่างไกลจากตัวเมืองมาก อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ขนาดของเนื้อที่เกือบเท่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน อยู่ในถิ่นทุระกันดาร พื้นที่เป็นภูเขาไฟ ไม่มีเพื่อนร่วมงาน หรือวัดสำหรับให้ท่านเริ่มงานสงฆาภิบาล ท่านได้ทำงานแพร่ธรรมเป็นเวลา 9 ปีแก่ประชากรบนเกาะปูโนและเกาะโกฮาล่า แรกๆ ท่านต้องทำงานอย่างตรากตรำ กลางแสงแดดร้อนจัด สร้างวัดหลังหนึ่ง เยี่ยมสัตบุรุษจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ท่านต้องเดินทางผ่านปากปล่องภูเขาไฟและทะเลสาปพระเพลิง สูดกลิ่นกำมะถัน ลุยโคลนเลนเพราะฝนตกชุกในแถบนั้น บ่อยๆครั้ง ท่านได้เสี่ยงชีวิต ครั้งหนึ่งในเวลาเที่ยงคืน ท่านได้พังประตูทางเข้าถ้ำลับๆแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งชาวพื้นเมืองประมาณ 30 คนกำลังทำพิธีบวงสรวงเจ้าที่เจ้าทาง ท่านได้เท โดยไม่รีรอ เลือดสัตว์สดๆร้อนๆในชามทิ้ง และทำลายสัญลักษณ์ของภูตผีปิศาจ
คริสตชนระลึกถึงท่านที่ได้อุทิศตนทำงานเพื่อคนโรคเรื้อนบนเกาะโมล๊อกไค ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้จัดสรรให้เป็นที่ตั้งหลักแหล่งของคน ที่เป็นโรคติดต่อนี้ แยกออกจากครอบครัว เขาทั้งหลายจำใจต้องมาอยู่ในสภาพไร้มนุษยธรรม โดนปล่อยเกาะ ในปี 1873 พระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้า ได้ดลใจให้พระสงฆ์องค์หนึ่งมาประจำที่เกาะโมล๊อกไค ตามกฎของรัฐบาลท้องถิ่น นักบวชองค์นั้นจะต้องอยู่ที่นั่นตลอดชีวิตถึงแม้ว่าเขาได้อาสาสมัครมาเอง และในที่สุดจะติดโรคและตายด้วยโรคนั้น คุณพ่อเดเมียนได้ถวายชีวิตของท่านในพระหัตถ์ของพระเป็นเจ้าเพื่อลูกๆของพระองค์บนเกาะโมล๊อกไค
ท่านได้ออกเดินทางภายในหนึ่งชั่วโมง ที่ฮอนโนลูลูท่านได้โดยสารเรืออีกลำหนึ่ง ซึ่งบรรทุกคนโรคเรื้อน 50 คน ที่โมล๊อกไคสัตบุรุษหน้าใหม่ๆได้เข้าแถว ต้อนรับท่านบนหาดทราย คนเหล่านั้นอยู่ในขั้นสุดท้ายของโรคเรื้อน หมดหวังที่จะมีชีวิตอีกต่อไป ท่านได้มองเห็นสัญลักษณ์แห่งความหวังอันเดียวในบริเวณนั้น ซึ่งเป็นวัดเล็กๆทำด้วยไม้หยาบๆ สิ่งแรกที่ท่านทำก็คือ คุกเข่าลง สวดภาวนา ท่านได้ใช้เวลาทั้งคืนทำความสะอาดวัดน้อยหลังนั้น มีเสียงรบกวนท่าน เสียงหัวเราะ ของคนขี้เหล้าเมายาในชุมชนที่ไม่มีกฎหมาย เสียงร้องครวญครางของคนที่กำลังจะหมดลมหายใจ และเสียงหมาป่าเห่าหอน กำลังรอ คอยกินซากศพของคนตาย
ท่านไม่เพียงแต่นำความเชื่อในพระศาสนามาให้ชาวเกาะโมล๊อกไค ท่านยังได้ปฐมพยาบาลคนเจ็บป่วย บรรเทาความเจ็บปวดตามร่างกาย ล้างแผลและปิดแผลด้วยผ้าอนามัย ช่วยสร้างกระท่อมหลังคาจาก โปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ขุดหลุมฝังศพ ต่อโรงศพ และเหนือสิ่งอื่นใด เอาวิญญาณชาวเกาะรอดไปสวรรค์
แล้วยุคแห่งการเปลี่ยน "นรก ณ แผ่นดิน" เป็น "วิมารแห่งความหวัง" ก็ได้มาถึง หลังจากท่านได้รับใช้ชาวเกาะเป็นเวลาสิบสองปี ในปี 1885 คุณพ่อเดเมียน อายุสี่สิบเก้าปี ได้ค้นพบว่า ตัวท่านเองได้ติดโรคร้ายนั้น ร่างกายของท่านเริ่มพิการและอัปลักษณ์ แต่ท่านก็ยังคงดำเนินงานต่อไป และปฏิเสธที่จะเดินทางออกจากเกาะเพื่อพักรักษาตัว ก่อนสิ้นใจ พระสงฆ์ 4 องค์และนางพยาบาลกลุ่มหนึ่งได้เดินทางมาร่วมงานกับท่าน โดยจิตเมตตากรุณาของท่านที่เปี่ยมด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ผู้น่าสงสาร อยู่ในสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลย โดนทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิง "เกาะมัจจุราช" ได้กลายเป็น "เกาะที่เจริญรุ่งเรือง เพียบพร้อมด้วยสวัสดิการอย่างดีสำหรับคนป่วยด้วยโรคเรื้อน"
ระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่คนได้พูดจาให้ร้ายท่าน หลังจากท่านได้หมดลมหายใจเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1888 ความศักดิ์สิทธิ์และการอุทิศชีวิตของท่าน เพื่อผู้อื่นเป็นที่กล่าวขวัญของคริสตชนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ในปี 1905 นายหลุยส์ สตีเวนเซ่น นักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงทั่วโลก ได้เขียนบทความปกปักษ์รักษากิตติคุณ ของท่านอย่างเร่าร้อน ซึ่งเป็นเอกสารฉบับสำคัญในการสถาปนาท่านเป็นนักบุญ ศพของท่านได้ถูกนำกลับประเทศเบลเยี่ยม ท่านเกิดมาเป็นลูกชาวนา พลีชีวิตเพื่อชาวเกาะโมล๊อกไคผู้เป็นโรคเรื้อนที่สังคมรังเกียจ และรับการฝังศพเหมือนเจ้าชายในพระวิหารแห่งกรุงแอนท์เวิป
ในปี 1977 พระสันตะปาปาปอลที่ 6 ได้ประกาศให้ยอเซฟ เดอะ เวสเตอร์เป็นผู้ควรแก่การเคารพ
และเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 1995 สันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้แต่งตั้งท่านเป็นนักบุญ
ให้เราภาวนา: ข้าแต่พระเป็นเจ้า ผู้ทรงรักมนุษย์ทุกคนอย่างเหลือล้น โดยคำวิงวอนของนักบุญคุณพ่อเดเมียน โปรดประทานพระหรรษทาน ให้เราได้แลเห็น พระองค์ประทับอยู่ในผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่สังคมรังเกียจหรือถูกทอดทิ้งโดยสิ้นเชิง ให้เรามีความศรัทธาอย่างแท้จริงต่อพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ของพระเยซูเจ้า และต่อดวงพระทัยนิรมลทินของพระนางมารีอา ดวงใจของเราจะได้เปี่ยมด้วยความรักต่อพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ อาแมน
bCentral Counter
Send mail to
[email protected]
with question or comments about this web.
Copyright @ 1995-2000 Data Computer's House. 2123-2125 Suebsiri Rd. Muang,
Nakorn-Rachasima.30000 Thailand. Last