Data Computer's House. Korat.
  2123-2125 Suebsiri Rd. Nai-muang, Nakorn-Rachasima.30000 Thailand.  

  บริษัท ดาต้าคอมม์ บีบีเอส. จำกัด  2123-2125 ถนนสืบศิริ อ.เมือง นครราชสีมา 30000 โทรศัพท์/โทรสาร. 044-353392, 353578  

   ความลับฟาติมาทั้งสามข้อ
   จากหนังสือนิตยสาร "Soul" ฉบับ July-August 2000


แปลและเรียบเรียงโดย  
สิริโรจนา   


    ข้อที่หนึ่ง:   พูดถึงภาพนรกที่เด็กเลี้ยงแกะสามคนได้เห็นในการประจักษ์ของแม่พระที่ฟาติมาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 1917 ลูซิอาได้เขียนสิ่งที่พระนางมารีอาได้ทรงเปิดเผยว่า:

    "และแม่พระได้ตรัสต่อว่า: "จงทำพลีกรรมเพื่อคนบาป และทุกครั้งที่ทำพลีกรรม ให้สวดบทนี้: "พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้าขอถวายพลีกรรมนี้ เพื่อความรักต่อพระองค์ การกลับใจของคนบาป และการชดเชยบาปที่ผิดต่อดวงพระทัยนิรมลทินของพระนางมารีอา"" และขณะที่แม่พระได้ตรัสคำเหล่านี้ พระนางได้กางพระหัตถ์ออกไป เหมือนอย่างที่ได้ทรงทำเมื่อสองเดือนมาแล้ว ลำแสงได้พุ่งทะลุพื้นโลก เราได้เห็นทะเลเพลิง ผีปิศาจและวิญญาณมนุษย์จมดิ่งลงในพระเพลิงนี้ เหมือนถ่านไฟที่ร้อนระอุ ทั้งหมดถูกเผาไหม้จนเกรียม หรือมีสีเหลืองแดง ลอยอยู่ในเปลวไฟ ถูกพัดขึ้นไปข้างบน เปลวไฟแลบออกมาจากตัว พร้อมด้วยควัน แล้วก็หล่นลงไปเหมือนประกายไฟของพระเพลิงมหึมา ในสภาพไร้น้ำหนักหรือขาดดุลภาพ ท่ามกลางเสียงร้อง และเสียงครวญคราง ด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง ซึ่งทำให้พวกเรากลัวจนตัวสั่น (เนื่องจากภาพนี้ที่ได้เห็น คนที่อยู่รอบข้างได้ยินข้าพเจ้าร้องสุดเสียง) เรามองเห็นผีปิศาจอย่างชัดเจน มันมีรูปร่างน่าหวาดหลัว เหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย ที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน มีสีดำคล้ำ เหมือนถ่านหินที่ร้อนระอุคุอยู่ในเตาไฟ พวกเราตกใจกลัวอย่างสุดขีด มองขึ้นหาแม่พระ ขอความช่วยเหลือจากพระนาง ผู้ ซึ่งตรัสกับเราอย่างอ่อนโยนและเศร้าๆว่า:

    "ลูกได้เห็นนรกแล้ว ที่ซึ่งวิญญาณของคนบาปน่าสงสารได้ตกลงไป เพื่อช่วยคนบาปพ้นจากนรก พระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้โลกยึดมั่นในความศรัทธาต่อดวงพระทัยนิรมลทินของแม่ ถ้าคริสตชนทำตามที่แม่บอกลูก วิญญาณมากมายจะรอด และจะมีสันติภาพทั่วโลก สงครามกำลังจะยุติ (หมายถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง) แต่ถ้ามนุษย์ยังไม่เลิกทำเคืองพระหฤทัยของพระเป็นเจ้า จะเกิดสงครามอีกครั้ง ที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้ ในสมณะสมัยของพระสันตะปาปาปิโอที่ 11 เมื่อลูกเห็นกลางคืนสว่างไสวด้วยแสงลึกลับ ให้ลูกรู้ว่า นี่คือสัญลักษณ์ที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่ลูก พระองค์กำลังจะลงโทษโลกแห่งอาชญากรรม ด้วยสงคราม ความอดหยาก และการเบียดเบียนพระศาสนจักรและบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์"

    "เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้มิให้เกิดขึ้น แม่จะมาขอให้ถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่ และการรับศีลมหาสนิทชดเชยบาปในวันเสาร์ต้นเดือน ถ้าคริสตชนเชื่อฟังแม่ ประเทศรัสเซียจะกลับใจ และจะมีสันติภาพทั่วโลก มิฉะนั้น รัสเซียจะเผยแพร่ความผิดไปทั่วโลก เป็นสาเหตุให้เกิดสงคราม และการเบียดเบียนพระศาสนจักร คนชอบธรรมจะได้เป็นมรณสักขี บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะทุกข์ยากลำบากใจ หลายๆประเทศจะถูกทำลาย ในที่สุด ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่จะมีชัยชนะ บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะถวายประเทศรัสเซียแด่แม่ รัสเซียจะกลับใจ และโลกจะมีสันติภาพชั่วระยะเวลาหนึ่ง"

    ความลับฟาติมาข้อที่สอง:    คือ แม่พระได้ขอร้องให้โลกถวายรัสเซียแด่ดวงพระทัยนิรมลของพระนางมารีอาในการประจักษ์แก่ซิสเตอร์ลูซิอา คณะโดโรเธี่ยน ในโบสถ์ของคอนแวนท์ ที่เมืองตุยประเทศสเปนเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1929

    ซิสเตอร์ลูซิอาได้เขียนความลับข้อที่สาม ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 1943 และ 9 มกราคม 1944 โดยคำบัญชาจากพระสังฆราชโฮเซ่ คอริเอ ดา ซิลวา แห่งลีไอเรีย ความลับนี้ได้ถูกส่งมอบให้พระสังฆราชเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 1944 พระสังฆราชได้ปิดผนึกความลับและเก็บไว้ในห้องเก็บเอกสารของสังฆมลทลเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1945 พร้อมกับคำสั่งว่า: "เมื่อข้าพเจ้าหมดลมหายใจ ส่งความลับนี้ให้กับพระอัครสังฆราชแห่งกรุงลิสบอน"

    ระหว่างปลายเดือนกุมพาพันธ์ 1957 และปลายเดือนมีนาคม ความลับได้ถูกมอบให้กับมอนซีญเยอร์ เซนโต สมณะทูตประจำกรุงลิสบอน เพื่อส่งต่อให้กับสมณะกระทรวงว่าด้วยเรื่องข้อความเชื่อในกรุงโรม ความลับนี้ได้ถึงกรุงโรมเมื่อวันที่ 16 เมษายน 1957 คุณพ่อโจอาควิน มารีอา อะลอนโซ ผู้ดูแลห้องเก็บเอกสารที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ได้ออกความเห็นว่า พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ผู้ซึ่งได้สิ้นพระชนม์วันที่ 9 ตุลาคม 1958 ไม่ได้มีโอกาสอ่านจดหมายฉบับนั้น พระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ได้รับจดหมายที่พระราชวังแคสเทลแกนโดลไฟ และอ่านมันสองวันต่อมา คพ. อะลอนโซได้ขอร้องให้พระสันตะปาปาปอลที่ 6 อ่านความลับฟาติมา ด้วยเหตุนี้ พระองค์ได้ตัดสินพระทัยเสด็จไปฟาติมาเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 1967 เพื่อฉลองแม่พระประจักษ์ครบรอบห้าสิบปี

    ซิสเตอร์ลูซีอาได้เขียนลงบนกระดาษเป็นภาษาปอร์ตุเกสเมื่อวันที่ 3 มกราคม 1944 ว่า:

    "ข้าพเจ้าเขียนด้วยความนบนอบต่อพระองค์ พระเป็นเจ้าของข้าพเจ้า ผู้ซึ่งได้ทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าทำตามคำขอร้องของพระสังฆราชแห่งลีไอเรีย ของพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระองค์และของข้าพเจ้าด้วย

    "หลังจากข้าพเจ้าได้อธิบายแล้วสองเรื่อง ทางซ้ายมือของแม่พระและเหนือขึ้นไปเล็กน้อย เราได้เห็นเทวดาองค์หนึ่งถือดาบไฟในมือซ้าย มีแสงเป็นประกาย และเปลวไฟแลบออกมา คล้ายกับว่าไฟกำลังจะเผาโลก แต่ไฟได้ดับเมื่อกระทบกับแสงเจิดจ้าที่ออกจากขวามือของแม่พระ เทวดาส่งเสียงร้องอย่างดังว่า:

    "จงใช้โทษบาป, จงใช้โทษบาป, จงใช้โทษบาป! และเราได้แลเห็นลำแสงมหึมาแห่งองค์พระเจ้า: คล้ายกับคนกำลังส่องกระจก พระสังฆราชองค์หนึ่งแต่งชุดขาว เราเข้าใจว่าท่านคือบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ พระสังฆราชองค์อื่น พระสงฆ์ นักบวชชายหญิง กำลังขึ้นเขาสูงชัน ที่บนยอดเขามีไม้กางเขนอันใหญ่ ทำด้วยขอนไม้หยาบๆจากต้นก๊อก ก่อนถึงสถานที่แห่งนั้น บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ต้องผ่านเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง เต็มไปด้วยซากสลักหักพัง พระองค์เดินๆหยุดๆ ด้วยความเจ็บปวดและความเศร้าพระทัย พระองค์สวดภาวนาอุทิศให้วิญญาณของผู้ตายที่พระองค์ได้เดินผ่านไป เมื่อพระองค์ถึงยอดเขาแล้ว พระองค์คุกเข่าที่ปลายไม้กางเขน ทหารกลุ่มหนึ่งได้สาดกระสุนและลูกศรใส่พระองค์และสังหารพระองค์ และพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวชชายหญิง และฆราวาสมากมายหลายคน ผู้มียศฐานบรรดาศักดิ์และตำแหน่งต่างๆ ก็สิ้นชีวิตแบบเดียวกันทีละคน ใต้ไม้กางเขนมีเทวดาข้างละองค์ ถือภาชนะแก้วใส่โลหิตของมรณะสักขี เทวดาได้พรมวิญญาณที่กำลังเดินบนทางตรงไปหาพระเป็นเจ้า ด้วยโลหิตนี้"

    ศตวรรษแห่งมรณสักขี / เทวฑูตถือสารมาแจ้งแก่พระนางมารีย์ / พระนางมารีย์ร่วมมือกับพระเป็นเจ้า / คำอธิบาย บทวันทามารีอา

  Send mail to [email protected] with question or comments about this web.
Copyright @ 2000 Data Computer's House.  2123-2125 Suebsiri Rd. Nai-muang,
Nakorn-Rachasima. 30000 Thailand.   Last